สารบัญ
เครื่องคำนวณการหยุดการขาดทุน
หากคุณเทรดไม่ว่าจะเป็น คริปโต ฟอเร็กซ์ หรือ หุ้น คำถามที่สำคัญที่สุดคือ “คุณจะสูญเสียเท่าไรหากตลาดกลับตัว” เครื่องคำนวณจุดตัดขาดทุน ของเราตอบคำถามนั้น เครื่องคำนวณนี้จะบอกคุณว่าควรวาง จุดตัดขาดทุน ไว้ที่ใดเพื่อปกป้องเงินทุนในการซื้อขายของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือป้อนราคาเข้า เลือกเปอร์เซ็นต์ที่คุณต้องการเสี่ยง และระบุว่าการซื้อขายนั้นจะเป็นแบบ long หรือ short
เครื่องคำนวณการหยุดการขาดทุน
วิธีการใช้เครื่องคำนวณ Stop Loss?
- กรอกราคาเข้า คือราคาที่คุณซื้อหรือขาย
- ป้อนอัตราความเสี่ยง % – จำนวนเงินการสูญเสียที่คุณสามารถรับได้
- เลือก ประเภทการซื้อขาย – ยาว หรือ สั้น
- กดปุ่ม ' คำนวณ Stop Loss ' – ราคา Stop Loss ของคุณจะแสดงทันที
นี่เป็นการคำนวณจุดตัดขาดทุนขั้นพื้นฐานโดยไม่มีการลื่นไถลหรือค่าธรรมเนียมใดๆ เกี่ยวข้อง
เครื่องคำนวณ Stop Loss ทำงานอย่างไร?
จุดประสงค์หลัก ของการวางจุดตัดขาดทุนคือเพื่อ ควบคุมความเสี่ยง เมื่อคุณทำการซื้อขาย สิ่งสำคัญคือการตัดสินใจว่าจะปิดการซื้อขายที่จุดใดหากราคาพลิกกลับ
เครื่องคำนวณจุดหยุดการขาดทุน ของเราช่วยคุณในการทำงานนี้ได้
ทำไมจึงใช้งานง่าย?
เครื่องคิดเลขจะถามแค่สามสิ่ง:
- ราคาเข้าชม
ราคาที่คุณซื้อหรือขายสินทรัพย์ - เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง
คุณต้องการเสี่ยงกี่เปอร์เซ็นต์ สมมติว่าคุณต้องการเสี่ยง 3% นั่นหมายความว่าหากราคาพลิกกลับ 3% การซื้อขายก็จะถูกตัด - ประเภทการค้า
การเทรดระยะยาวหมายถึงคุณต้องการทำกำไรเมื่อราคาเพิ่มขึ้น
การซื้อขายระยะสั้นหมายถึงคุณต้องการทำกำไรเมื่อราคาลดลง
จะคำนวณ stop loss ได้อย่างไร?
วิธีคำนวณจุดตัดขาดทุนนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของการซื้อขาย ไม่ว่าคุณจะถือยาวหรือถือสั้น สูตรสำหรับทั้งสองแบบนั้นแตกต่างกันแต่ก็ง่ายมาก
หากคุณซื้อระยะยาว สูตรการหยุดการขาดทุนคือ:
Stop Loss = ราคาเข้า – (ราคาเข้า × ความเสี่ยง %)
หากคุณขายชอร์ต สูตรการหยุดการขาดทุนคือ:
Stop Loss = ราคาเข้า + (ราคาเข้า × ความเสี่ยง %)
สูตรทั้งสองจะบอกวิธีการคำนวณจุดตัดขาดทุน ซึ่งเป็นราคาที่คุณควรปิดการซื้อขายเพื่อให้การขาดทุนของคุณยังคงอยู่ในขีดจำกัดที่กำหนด
ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อหุ้นที่ราคา 1,000 ดอลลาร์ และต้องการเสี่ยง 5% จุดตัดขาดทุนสำหรับการเทรดแบบ long จะอยู่ที่ 950 ดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าหากราคาอยู่ที่ 950 ดอลลาร์ การเทรดจะถูกปิดลง
เพราะเหตุใดจึงมีประโยชน์?
- คุณไม่จำเป็นต้องคิดว่าจะวาง SL ไว้ที่ไหน
- ความเสี่ยงได้มีการกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว
- คุณจะได้รับการคำนวณที่แม่นยำและรวดเร็วทุกครั้ง
เหตุใดการหยุดการขาดทุนจึงสำคัญ?
การเทรดไม่ใช่แค่เกมการทำกำไรเท่านั้น เกมที่แท้จริงคือการควบคุมการขาดทุน และนี่คือจุดที่การหยุดขาดทุนมีบทบาทสำคัญที่สุด
การเทรดโดยไม่มีจุดตัดขาดทุนก็เหมือนกับการขี่จักรยานโดยไม่สวมหมวกกันน็อค ตราบใดที่ทุกอย่างยังปกติดีก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อตลาดพลิกกลับด้านก็อาจเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ได้
มันช่วยปกป้องเงินทุนของคุณ
การวางจุดตัดขาดทุนจะช่วยให้คุณตัดสินใจล่วงหน้าได้ว่าคุณจะรับความสูญเสียได้เท่าใดหากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกับคุณ ซึ่งจะไม่ทำให้บัญชีของคุณหมดไปในครั้งเดียว
มันช่วยในการหลีกเลี่ยงอารมณ์
เมื่อราคาตก เรามักจะกลัว และเมื่อเกิดความกลัว มักจะตัดสินใจผิดพลาด หากได้ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องดูกราฟซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะเราได้ตัดสินใจไปหมดแล้ว
ป้องกันการสูญเสียอย่างต่อเนื่อง
ไม่ใช่ว่าทุกการซื้อขายจะถูกต้องเสมอไป แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องขาดทุนมากในการซื้อขายทุกครั้ง การหยุดขาดทุนจะป้องกันไม่ให้คุณขาดทุนติดต่อกันหลายครั้ง การสูญเสียเล็กน้อยสามารถจัดการได้ แต่การสูญเสียครั้งใหญ่สามารถทำลายสมดุลทั้งหมดได้
ดังนั้นการวางจุดตัดขาดทุนจึงไม่เพียงแต่ชาญฉลาดแต่ยังจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการซื้อขายในระยะยาว
เคล็ดลับสำหรับผู้เริ่มต้น: ควรวางจุด stop loss เมื่อไหร่และที่ใด?
หากคุณเพิ่งเริ่มเทรด ข้อผิดพลาดประการแรกคือการลืมวางจุดตัดขาดทุนหรือวางไว้ในตำแหน่งที่ผิด ด้วยเคล็ดลับด้านล่างนี้ คุณจะสามารถใช้แนวทางที่ถูกต้องได้ตั้งแต่เริ่มต้น
1. ตัดสินใจเรื่องความเสี่ยงก่อนเสมอ
ก่อนทำการซื้อขาย ให้พิจารณาว่าคุณสามารถรับความสูญเสียได้เท่าใด จากนั้นจึงตั้งจุดตัดขาดทุนตามเปอร์เซ็นต์ดังกล่าว ไม่มีประโยชน์ใดๆ ที่จะตั้งจุดตัดขาดทุนให้แคบหรือมากเกินไป
2. วางอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ด้วยการดูแผนภูมิ
หลายๆ คนตั้งจุดตัดขาดทุนโดยดูจากกราฟเท่านั้น เช่น ต่ำกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้ แต่คุณควรพิจารณาตามเงินทุนของคุณเสมอ
ป้อนเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงลงในเครื่องคิดเลขแล้วคำนวณราคาที่แน่นอน ซึ่งจะทำงานตามตรรกะเดียวกันทุกครั้ง
3. เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องวางไว้ในทุกการค้าขาย
หลายคนคิดว่า “คราวนี้มันจะขึ้นแน่นอน” และทิ้งจุดตัดขาดทุนไว้ แต่ไม่มีแนวโน้มใดที่แน่นอน ดังนั้น แม้ว่าคุณจะมั่นใจ 100% ก็ยังคงวางจุดตัดขาดทุนไว้
4. หยุดเปลี่ยนใจหลังจากวางจุดตัดขาดทุน
หากตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ อย่าถือการซื้อขายนั้นอีก มองหาโอกาสใหม่ ๆ ไม่จำเป็นต้องเอาชนะตลาดทุกครั้ง แต่การปกป้องตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ
คำถามที่พบบ่อย: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องคำนวณ Stop Loss
1.จะคำนวณ stop loss ได้อย่างไร?
หากคุณซื้อ: Stop Loss = ราคาเข้า – (ราคาเข้า × ความเสี่ยง %) หากคุณขายชอร์ต: Stop Loss = ราคาเข้า + (ราคาเข้า × ความเสี่ยง %) เพียงแค่ใส่ราคาเข้าและความเสี่ยง % จากนั้นเครื่องคำนวณจะแสดง Stop Loss ให้คุณเห็นทันที
2. Stop Loss 20 pip คืออะไร?
การตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 20 พิป หมายความว่าคุณตั้ง Stop Loss ไว้ห่างจากราคาเข้าเพียง 20 พิป การวัดค่าพิปนี้ใช้ในการซื้อขายฟอเร็กซ์
3. Stop Loss และ Take Profit Margin คืออะไร?
ความแตกต่างระหว่างราคาทั้งสองราคานั้นมีอยู่ 2 ประการ คือ Stop Loss ซึ่งจำกัดการขาดทุน และ Take Profit ซึ่งล็อกกำไรเอาไว้ ซึ่งจะช่วยจัดการอัตราส่วนแนวโน้มของคุณ
4. เครื่องคิดเลขนี้ใช้งานได้กับสกุลเงินดิจิทัล ฟอเร็กซ์ และหุ้นหรือไม่
ใช่ เครื่องคิดเลขนี้ใช้งานได้กับทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัล ฟอเร็กซ์ หุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์ สิ่งที่คุณต้องทำคือป้อนราคาเข้าและความเสี่ยงที่ถูกต้อง
5. รวมค่าสลิปปิ้งและค่าธรรมเนียมด้วยหรือไม่?
ไม่ มันคำนวณแบบพื้นฐาน ไม่รวมค่าธรรมเนียมการซื้อขาย สเปรด หรือสลิปเพจ ดังนั้นควรเผื่อไว้เล็กน้อยเมื่อทำการซื้อขายจริง
หากตำแหน่งนั้นสร้างกำไร 5% คุณจะได้รับกำไร ₹100 ในขณะที่หากไม่มีเลเวอเรจ คุณจะได้รับเพียง ₹5 เท่านั้น
เครื่องคิดเลขที่เกี่ยวข้อง
หากคุณคำนวณจุดตัดขาดทุนได้อย่างถูกต้อง แสดงว่าคุณต้องการเทรดอย่างมืออาชีพ และในกระบวนการเดียวกัน เครื่องคิดเลขเพิ่มเติมสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์ของคุณได้มากขึ้น
- เครื่องคำนวณกำไรในอนาคตของ Crypto
หากคุณซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสกุลเงินดิจิทัลและต้องการทราบว่าจะมีกำไรหรือขาดทุนเท่าใด เครื่องคิดเลขนี้จะมีประโยชน์สำหรับคุณ - เครื่องคำนวณเลเวอเรจ
หากคุณทำการซื้อขายโดยใช้เลเวอเรจ คุณจะต้องรู้ว่าความเสี่ยงกำลังเพิ่มขึ้นมากเพียงใด
เคล็ดลับ: หากคุณใช้เลเวอเรจ ควรใช้เครื่องคำนวณจุดหยุดการขาดทุนอย่างระมัดระวังมากขึ้น
คุณควรใช้เครื่องคำนวณเลเวอเรจร่วมกับ เครื่องคำนวณ Stop Loss