ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น เนื่องจากข้อมูล PMI ที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุน ขณะที่การเติบโตของภาคบริการชดเชยการลดลงของการผลิต
PMI ที่แข็งแกร่งเกินคาดส่งผลให้ S&P 500 ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเซสชัน

ดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการคาดการณ์ข้อมูล PMI ของสหรัฐฯ
ตลาดหุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น ใน วันจันทร์ โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นแตะ ระดับสูงสุดในรอบวัน หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับข้อมูล ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ประจำเดือน มีนาคม ซึ่งส่งผลให้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดีขึ้น ตาม รายงานของ S&P Global ดัชนี PMI ปรับตัว สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเกินคาด ที่ 53.5 ซึ่งแสดงให้เห็นถึง ประสิทธิภาพการทำงาน ที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นนี้ขับเคลื่อนโดยหลักแล้วจาก กิจกรรมภาคบริการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 51.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็น 54.30 ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลง จาก 52.70 เป็น 49.80 ซึ่งบ่งชี้ถึง การชะลอตัว ในด้านนี้
ข้อมูลผลประกอบการของภาคบริการที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผลักดันให้ ดัชนี S&P 500 ทะลุ 5,760 จุด นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ยัง ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ผู้เข้าร่วมตลาด ได้ประเมิน การคาดการณ์ ของตนใหม่ ในขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตร ก็เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ราคาทองคำลดลง โดยขยับเข้าใกล้ ระดับ 3,020 จุด
ข้อมูลดัง กล่าวบ่งชี้ถึง ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ จากสัญญาณ การถดถอยของภาคการผลิต ปัจจุบัน ผู้ค้า กำลังเปลี่ยนความสนใจไปที่ การอัปเดตแนวทางเพื่อก้าวไปข้างหน้า