Apple วางแผนย้ายการประกอบ iPhone ไปยังอินเดียภายในปี 2026 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและแนวโน้มของตลาด
Apple เตรียมย้ายฐานการผลิต iPhone ในสหรัฐอเมริกาไปยังอินเดีย ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มมากขึ้น

Apple วางแผนที่จะย้ายการผลิต iPhone ไปยังอินเดียเพื่อตอบสนองต่อความตึงเครียดด้านการค้าที่เพิ่มมากขึ้น
รายงานจาก Financial Times เผยว่า Apple กำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานภายในสิ้นปี 2026 โดย iPhone ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาจะประกอบขึ้นที่อินเดียแทนที่จะเป็นจีน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง โดยสหรัฐฯ ได้กำหนดภาษีสูงถึง 145% ส่งผลให้จีนต้องดำเนินการตามนั้น
ปัจจุบัน ในประเทศจีน การผลิต iPhone ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความช่วยเหลือจากพันธมิตร เช่น Foxconn และ Luxshare Precision Industry การย้ายฐานการผลิตออกจากจีนถือเป็นความท้าทายสำหรับ Apple เนื่องจาก Apple จะต้องเพิ่มกำลังการผลิตในอินเดียเป็นสองเท่าเพื่อให้ทันกับความต้องการของตลาด
บริษัทได้ลงทุนในอินเดีย โดยได้จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำ เช่น Foxconn และ Tata Electronics รวมถึง Pegatron และ Wistron เพื่อขยายการดำเนินงานในอินเดียต่อไป โดยบริษัทเหล่านี้มุ่งเน้นที่รัฐกรณาฏกะและรัฐทมิฬนาฑู ซึ่งโรงงานหลักกำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นักลงทุนที่เฝ้าจับตาดูหุ้นของ Apple ควรจับตาดูความเคลื่อนไหวเหล่านี้ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของตลาดได้อย่างมาก
สิ่งหนึ่งที่ต้องจับตามองคือ แม้ว่าภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียที่มุ่งหน้าสู่สหรัฐอเมริกา 26% จะถูกระงับไว้ระหว่างการเจรจาการค้า แต่ภาษีนำเข้าทั่วไป 10% ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ แม้ว่าความสัมพันธ์ด้านภาษีศุลกากรระหว่างทั้งสองประเทศจะหยุดชะงักไปบ้าง แต่ความสัมพันธ์ดังกล่าวก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในทุกประเด็น การเจรจาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรในอนาคต การหารือและการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้า ภาษีศุลกากร และการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ล้วนมีส่วนทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลงานของ Apple ในระยะสั้นและในอนาคตอันใกล้นี้
แม้จะมีการพัฒนาต่างๆ เกิดขึ้น แต่ในช่วงข่าวคราวเกี่ยวกับผลงานของ Apple ในตลาดล่าสุด ก็ควรกล่าวถึงว่าราคาหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้น 1.8% เนื่องจากราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง อาจอนุมานได้ว่านักลงทุนมีความหวังในการลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าราคาหุ้นลดลง 5.6% อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกและรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อ Apple เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่กำหนดไว้ในสัปดาห์ที่จะเผยแพร่